Social Icons

Pages

วันพุธที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ค่า SPF & PA ในครีมกันแดด





              หลายคนคงเคยสงสัยเหมือนผมว่าไอ้ค่า  SPF & PA  ที่อยู่ในครีมกันแดดมันคืออะไร แล้วค่าต่างๆมันต่างกันอย่างไร วันนี้ผมเลยหาตอบคำมาฝาก จะได้หายสงสัยกันสักที และจะได้สามารถตัดสินใจเลือกใช้ครีมกันแดดกันได้อย่างเหมาะสมกับสภาพแดดที่เผชิญ


             PA หรือ Protection Grade of UVA ในขณะนี้ยังไม่มีหน่วยวัดที่เป็นมาตรฐานในการวัดค่าการดูดซึมของรังสี UVA ดังนั้นจึงถือเอาคำว่า PA เป็นหน่วยวัดรังสี UVA อย่างไม่เป็นทางการ

ค่า PA นั้นจะมี 3 ระดับคือ

PA+ หมายถึง มีประสิทธิภาพในการป้องกันรังสี UVA
PA++ หมายถึง มีประสิทธิภาพในการป้องกันรังสี UVA สูง
PA+++ หมายถึง มีประสิทธิภาพในการป้องกันรังสี UVA สูงสุด

             SPF หรือ Sun Protection Factor เป็นค่าระดับการปกป้องผิวจากรังสี UVB หรือ จำนวนเท่าของเวลาที่ผิวทนต่อรังสีอัลตราไวโอเลตนี้ได้หลังจากทาครีมกันแดดแล้ว
ปกติผิวของเราจะรับแสงแดดได้โดยปราศจากครีมกันแดดได้ประมาณ 20-30 นาที
ถ้าครีมกันแดดระบุไว้ว่า SPF30 ก็จะหมายถึง เราสามารถอยู่กลางแดดได้ประมาณ 30×30 = 900 นาที หรือ 15 ชั่วโมง โดยที่ผิวไม่ไหม้แดง

            แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การคำนวณอาจคลาดเคลื่อนได้ เนื่องจากครีมกันแดดที่ทาบนผิวอาจลบเลือนไปเมื่อเหงื่อออก โดนน้ำ หรือทำกิจกรรมต่างๆในชีวิตประจำวัน
ดังนั้น ทางที่ดีที่สุดควรทาครีมซ้ำทุก 2 ชั่วโมง เพื่อให้ประสิทธิภาพในการป้องกันแดดเป็นไปอย่างต่อเนื่อง

SPF15-30 เพียงพอสำหรับคนทั่วๆ ไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนในแถบเอเชียอย่างเรา

ค่า SPF แต่ละค่า

• ค่า SPF เท่ากับ 2 จะดูดซับ UVB ได้ 50%
• ค่า SPF เท่ากับ 4 จะดูดซับ UVB ได้ 75%
• ค่า SPF เท่ากับ 8 จะดูดซับ UVB ได้ 87.5%
• ค่า SPF เท่ากับ 15 จะดูดซับ UVB ได้ 93.3%
• ค่า SPF เท่ากับ 20 จะดูดซับ UVB ได้ 95%
• ค่า SPF เท่ากับ 30 จะดูดซับ UVB ได้ 96.7%
• ค่า SPF เท่ากับ 45 จะดูดซับ UVB ได้ 97.8%
• ค่า SPF เท่ากับ 50 จะดูดซับ UVB ได้ 98%

จะเห็นว่า SPF 15 เป็นต้นไป มีค่าการดูดซับแสงได้มากกว่า 90% ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับการป้องกันที่ดีมาก ค่า SPF