Social Icons

Pages

วันอังคารที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

L-Carnitine ช่วยลดน้ำหนักจริงหรือ ?


              มาคุยกันเรื่องแอล L-Carnitine นะครับ ผมเป็นคนหนึ่งที่สนใจเกี่ยวกับอาหารเสริมตัวนี้มาก และก็ทานตัวนี้ด้วย เท่าที่ผมเข้าใจแค่เป็นสารอาหารที่ช่วยในการนำเอาไขมันมาเผาพลาญ ทำให้ออกกำลังกายได้มากขึ้น ที่ผมทานผมจะทานก่อนออกกำลังกายเพื่อให้ได้ผลที่ดี ต้องใช้ร่วมกับการออกกำลังกายนะครับถึงจะได้ผลที่ชัดเจนที่สุด  เหมาะกับคนที่อยากลดความอ้วนนะครับ แต่เน้นเลยว่าต้องร่วมกับการออกกำลังกาย เพราะผมประสบมาแล้ว ทานอย่างเดียวให้ผลครับแต่ช้า ส่วนรายละเอียดเกี่ยวกับสารอาหารตัวนี้ ผมลองค้นหามาเพื่อแชร์ให้หลายๆคนที่รักษาสุขภาพและอยากลดความอ้วนหรือควบคุมน้ำหนักได้ทราบ




            แอล-คาร์นิทีน กลายเป็นผลิตภัณฑ์อาหารเสริมชนิดหนึ่ง ที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบันนี้ แต่แท้ที่จริงแล้ว ร่างกายขอมนุษย์สามารถผลิตแอล-คาร์นิทีนได้เอง โดยไม่ต้องพึ่งอาหารเสริมราคาแพง เราสามารถพบ แอล-คาร์นิทีน ได้ในร่างกายโดยหน้าที่ของตับ และสามารถอธิบายกระบวนการง่าย ๆ ได้ว่า แอล-คาร์นิทีน อาศัยกรดอะมิโน 2 ตัว คือ ไลซีน (ที่พบในเนื้อสัตว์ สัตว์ปีก และนม) และเมโทโอนีน (พบในธัญพืช ผักใบเขียว) ร่วมมือกันสังเคราะห์ขึ้น โดยมีกลุ่มสารอาหารที่คอยเร่งกระบวนการทำงาน ได้แก่ Niacin วิตามิน C และธาตุเหล็ก (พบในเนื้อสัตว์ ตับ ข้าวซ้อนมือ นม ผมไม้รสเปรี้ยว เป็นต้น)


          เมื่อ แอล-คาร์นิทีน ถูกผลิตขึ้นในร่างกายสำเร็จ จะออกฤทธิ์ในรูปแบบของกรดชนิดคาร์นิทีน มีหน้าที่ช่วยลำเลียงโมเลกุลไขมันเข้าไปในเซลล์ต่าง ๆ ซึ่งกระบวนการนี้เอง ที่เป็นการเปลี่ยนแปลงไขมันเป็นพลังงาน อาจกล่าวได้ว่า บทบาทสำคัญของมันก็คือ การหยิบเอาไขมันมาใช้งานให้หมดไปนั่นเอง ซึ่งหากร่างกายมีสารคาร์นิทีนไม่เพียงพอหรือขาด ก็จะนำมาสู่ปัญหาการสะสมของไขมันในร่างกาย และในสัดส่วนของคนเรา รวมถึงคั่งค้างอยู่ในอวัยวะสำคัญอย่างหลอดเลือด ทำให้หลอดเลือดทำงานเสื่อมถอยลง มีความเสี่ยงต่อโรคที่เกี่ยวกับไขมัน รวมถึงอาจมีอาการเหนื่อยล้า ซึม และอ่อนเพลีย

L-Carnitine ไขมัน และการเคลื่อนตัวของอสุจิตัวน้อย
           อย่างที่ได้กล่าวแล้วว่า แอล-คาร์นิทีนเกี่ยวข้องกับกระบวนการนำไขมันไปใช้ นำไขมันไปเผาผลาญไม่ให้เกิดการสะสมของไขมัน ซึ่งพลังงานที่ใช้จะถูกนำไปใช้ในกล้ามเนื้อต่าง ๆ โดยไขมัน และจะถูกนำไปเก็บไว้ในกล้ามเนื้อลาย กล้ามเนื้อหัวใจ กล้ามเนื้อบริเวณขา แขน เก็บบริเวณหัวใจ สมอง รวมทั้งการเก็บไว้ที่สเปิร์ม



          โดยแอล-คาร์นิทีนจะเร่งผลิตไมโทคอนเดรีย ทำให้ไขมันเปลี่ยนเป็นพลังงาน และทำให้สเปิร์มเคลื่อนตัวได้ดีขึ้น สาเหตุนี้เองที่ทำให้แอล-คาร์นิทีน มีส่วนในการทำงานเผาผลาญไขมัน หรือเบิร์นส์ไขมัน และเป็นที่นิยมของผู้ที่ออกกำลังกาย ผู้ที่ต้องการเสริมความฟิตให้กับร่างกาย และต้องการควบคุมน้ำหนัก ซึ่งในคนอ้วนนั้นมีการทดสอบพบว่า ในเนื้อเยื่อไม่มีสารกลุ่มคาร์นิทีนเลย หรือมีน้อยมาก นี่เองที่กลายเป็นข้อสันนิษฐานว่า ความอ้วน ไขมัน และแอล-คาร์นิทีน มีความเกี่ยวพันกัน โดยเกี่ยวข้องกับการลำเลียงไขมันไปใช้งาน และเมื่อร่างกายมีแอล-คาร์นิทีนเพิ่มขึ้น ทำให้การเผาผลาญไขมันดีขึ้น


แล้วจริงๆแล้วมันช่วยอะไร

  • แอล-คาร์นิทีน มีหน้าที่เป็นตัวนำเอาไขมันที่คั่งค้างสะสมตามส่วนต่าง ๆ ออกมาเผาผลาญให้เป็นพลังงาน และนี่เองที่ทำให้แอล-คาร์นิทีนมักอยู่ร่วมในโปรแกรมควบคุมน้ำหนัก การออกกำลังกาย
  •  ควบคุมระดับของคอเลสเตอรอล และไตรกลีเซอร์ไรด์ ในเลือด
  •  เราสามารถรับประทานอาหารในชีวิตประจำวัน เพื่อเพิ่มแอล/คาร์นิทีนได้ โดยรับประทานอาหารกลุ่ม เนื้อสัตว์ เนื้อแดง และนม
  • ไม่ควรรับประทานอาหารเสริมประเภทแอล-คาร์นิทีนเกินมากไป เพราะหากรับประทานเกินวันละ 6 กรัม อาจเกิดอาการบวม เป็นตะคริว หรือท้องเสียได้ เนื่องจากในอาหารที่รับเรารับประทานนั้น มีส่วนผสมของแอล-คาร์นิทีน ผสมปะปนอยู่โดยธรรมชาติ
  •  แอล-คาร์นิทีนมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ และช่วยแก้ไขภาวะหัวใจล้มเหลว
           แอล-คาร์นิทีน เป็นอีกหนึ่งสารอาหารสำคัญ ที่นำเอาไขมันที่ซุกซ่อนในร่างกายของคุณออกมาเผาผลาญเป็นพลังงาน แต่อาหารเสริมที่มีส่วนผสมของแอล-คาร์นิทีน ที่คุณบริโภคนั้นจะคุณสมบัติดีมากน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับกิจวัตรประจำวันของคุณในการับประทานอาหาร และการออกกำลังกาย เพื่อช่วยให้ร่างกายใช้พลังงานได้อย่างเหมาะสม